แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างแคมเปญโฆษณาบน TikTok

แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างแคมเปญโฆษณาบน TikTok

การสร้างแคมเปญโฆษณาที่มีประสิทธิภาพต้องอาศัยการจัดโครงสร้างบัญชีอย่างมีระบบและเป็นระเบียบ ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถจัดการกลุ่มโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มต้นหรือกำลังปรับปรุงแคมเปญที่มีอยู่ นี่คือแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการจัดโครงสร้างแคมเปญ พร้อมตัวอย่างจากแผนผังบัญชีของ Mark ซึ่งแบ่งออกเป็นแคมเปญสำหรับเว็บไซต์และแอป


1. การตั้งค่าแคมเปญ (Campaign Level)

การตั้งค่าแคมเปญควรอิงตาม วัตถุประสงค์ทางการตลาด เช่น การเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์, การเพิ่มการดาวน์โหลดแอป, หรือการเพิ่มยอดขาย

ตัวอย่างจากแผนภาพ:

  • Campaign 1: Website
    • วัตถุประสงค์: เพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์และกระตุ้นการซื้อจากโปรโมชั่น
  • Campaign 2: App
    • วัตถุประสงค์: เพิ่มการติดตั้งแอปพลิเคชันและยอดขายภายในแอปผ่านการโปรโมทสินค้า

2. การตั้งค่ากลุ่มโฆษณา (Ad Group Level)

กลุ่มโฆษณาคือการแบ่งโครงสร้างภายใต้แคมเปญ สามารถแบ่งตาม กลุ่มเป้าหมาย หรือ ประเภทของสินค้า เพื่อทำให้การจัดการง่ายขึ้น

แนวทางที่ควรปฏิบัติ:

  1. หลีกเลี่ยงการคัดลอกกลุ่มโฆษณาจำนวนมากเกินไปพร้อมกัน เพราะอาจทำให้แพลตฟอร์มเรียนรู้ช้า
  2. รักษาสมดุลระหว่างกลุ่มโฆษณาที่อยู่ใน ขั้นตอนการเรียนรู้ และกลุ่มที่มีประสิทธิภาพดีอยู่แล้ว
  3. สร้างกลุ่มโฆษณาที่หลากหลายเพื่อทดสอบการทำงานได้ดียิ่งขึ้น

ตัวอย่างจากแผนภาพ:

  • Campaign 1: Website
    • Ad Group: Easter Sale – เน้นการโปรโมทโปรโมชั่นเทศกาลอีสเตอร์ เช่น Creative: 70% Off และ $5 Everything
    • Ad Group: Valentine’s Day Sale – เน้นการขายสินค้าสำหรับเทศกาลวาเลนไทน์ เช่น Boy Gift Discount และ Girl Gift Discount
  • Campaign 2: App
    • Ad Group: Apparel - Women – โปรโมทเสื้อผ้าผู้หญิง เช่น Skirt, Blouse, Dress, และ Lingerie
    • Ad Group: Cosmetics – โฆษณาเครื่องสำอาง เช่น Lipstick, Bronzer, และ Foundation

3. ครีเอทีฟ (Creative Level)

ครีเอทีฟคือโฆษณาแต่ละชิ้นที่อยู่ภายในกลุ่มโฆษณา โดยควรมีความหลากหลายและตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมมากที่สุด

แนวทางที่ควรปฏิบัติ:

  1. ใช้ครีเอทีฟหลายรูปแบบเพื่อทดสอบว่าแบบใดทำงานได้ดีที่สุด
  2. ตรวจสอบประสิทธิภาพของครีเอทีฟอย่างสม่ำเสมอและปรับปรุงให้เหมาะสม
  3. ใช้ข้อความที่ดึงดูดใจและภาพหรือวิดีโอที่ตรงกับจุดสนใจของลูกค้าเป้าหมาย

ตัวอย่างจากแผนภาพ:

  • Easter Sale
    • Creative: 70% Off
    • Creative: Low Price Decorative
  • Apparel - Women
    • Creative: Dress-1
    • Creative: Lingerie
  • Cosmetics
    • Creative: Lipstick
    • Creative: Shampoo

4. เคล็ดลับการเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ

  1. ปรับปรุงกลุ่มโฆษณาที่มีอยู่: หากเห็นประสิทธิภาพลดลง เช่น CPA เพิ่มขึ้น ให้ลองปรับการกำหนดเป้าหมายหรือครีเอทีฟก่อนที่จะสร้างโฆษณาใหม่
  2. ขยายขอบเขตการกำหนดเป้าหมาย: หากกลุ่มโฆษณาไม่ผ่านขั้นตอนการเรียนรู้ ให้ขยายกลุ่มเป้าหมายหรือเพิ่มการเสนอราคา
  3. เน้นการทดสอบครีเอทีฟหลากหลาย: ใช้ครีเอทีฟที่แตกต่างกัน เช่น โปรโมชั่น ส่วนลด หรือคอนเทนต์วิดีโอที่เน้นการเล่าเรื่อง (Storytelling)

5. ตัวอย่างโครงสร้างบัญชีที่ชัดเจน

จากแผนผังที่ยกตัวอย่าง โครงสร้างบัญชีถูกแบ่งออกเป็น 2 แคมเปญหลัก พร้อมการจัดการกลุ่มโฆษณาและครีเอทีฟที่ชัดเจน ดังนี้:

  • Campaign 1: Website
    • แบ่งตามเทศกาล (Easter Sale, Valentine’s Day Sale)
    • แต่ละกลุ่มโฆษณามีครีเอทีฟที่เจาะจง เช่น ส่วนลดหรือข้อเสนอพิเศษ
  • Campaign 2: App
    • แบ่งตามหมวดหมู่สินค้า เช่น Apparel และ Cosmetics
    • แต่ละหมวดหมู่มีครีเอทีฟที่แสดงสินค้าเฉพาะเจาะจง

สรุป

การสร้างโครงสร้างแคมเปญที่ชัดเจนและเป็นระบบช่วยให้การจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด จากตัวอย่างในแผนภาพ การแบ่งแคมเปญ กลุ่มโฆษณา และครีเอทีฟตามวัตถุประสงค์การตลาดและกลุ่มเป้าหมาย ทำให้โฆษณาสามารถเข้าถึงผู้ชมได้ตรงจุดและมีผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น หากคุณทำตามแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดนี้ รับรองว่าจะสามารถสร้างแคมเปญที่ประสบความสำเร็จบน TikTok ได้อย่างแน่นอน